วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การ์ตูนมีประโยชน์อย่างไร
            การอ่านและการดูการ์ตูนสามารถช่วยให้เด็กบริหารวิธีคิดอย่างเป็นลำดับขั้นพัฒนาการ รวมทั้งเนื้อหาที่ปรากฏในการ์ตูนจะซ่อนความต้องการในระดับจิตใต้สำนึกของเด็กไว้เสมอ
            ในระดับจิตสำนึก การ์ตูนญี่ปุ่น การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ รวมทั้งการ์ตูนไทยในอดีต หรือการ์ตูนจีนกำลังภายในในปัจจุบัน ล้วนตอกย้ำซ้ำ ๆ ว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมหรือ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วซึ่งอาจจะฟังดูซ้ำซากมากจนเฝือ แต่มิใช่จริยธรรมสองข้อนี้หรอกหรือที่สำคัญยิ่งยวกในการธำรงความสงบสุขของสังคม
            ในระดับจิตใต้สำนึก การ์ตูนยังให้ประโยชน์กับเยาวชนโดยกระตุ้นให้เยาวชนใช้กลไกทางิจตที่ดีอีกสองข้อ คือ humorism และ altruism อันเป็นกลไกทางจิตสองข้อที่เรียกว่าเป็น healthy mental mechanism
            อารมณ์ขันเป็นกลไกทางจิตหรือเครื่องมือที่สำคัญยิ่งยวดในการพาเราเผชิญกับเรื่องร้าย ๆ ทั้งมวลในชีวิตจริง
            Sltruism คือ ใช้การบำเพ็ญประโยชน์ขจัดความก้าวร้าว
            อันที่จริงความหมายของ altruism นั้นกว้างไกล แต่เมื่อพูดถึง altruism ในการ์ตูนดูเหมือนว่ามันจะถูกนำมารับใช้เยาวชนนักอ่านได้ดีที่ประเด็นการขจัดหรือแปรเปลี่ยนความโกรธขึ้ง ความรุนแรง ความก้าวร้าวในใจให้ออกมาในรูปที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ และสังคมยอมรับ ซึ่งก็คือกลไกทางจิตของตัวเอกแทบทั้งหมดในการ์ตูนญี่ปุ่น
            นอกจากการ์ตูนจะใช้ humorism และ altruism ในการประนีประนอมกับเนื้อเรื่องที่รุนแรงหรือมีเรื่องทางเพศที่โจ่งแจ้งแล้ว การ์ตูนยังใช้ศิลปะที่มี่อยู่ในตัวยกระดับจิตใจของผู้อ่านเช่นเดียวกับศิลปะแขนงอื่น ๆ
            หากภาพยนตร์เป็นศิลปะแขนงที่เจ็ด การ์ตูนช่องจะเป็นศิลปะแขนงที่แปด
            ลองเปรียบเทียบ ดรากอนบอล ในหนังสือกับในโทรทัศน์ นักอ่านทุกคนจะยืนยันได้ว่า ความเร็วที่ปรากฎในหนังสือกลับมีมากกว่าที่ปรากฏในโทรทัศน์อย่างไม่น่าเชื่อ การพุ่งตัวขึ้นลงกลางอากาศหรือการขว้างปาลูกพลังเข้าใส่กันในหน้าหนังสือกลับเร็วเท่าใจนึก ขณะที่ฉากการต่อสู้ในโทรทัศน์ไปเร็วได้เพียงภาพที่เห็น
            ส่วนเสียงระเบิดกึกก้องที่ปรากฏในโทรทัศน์แม้จะดังกว่า แต่เสียงที่ดังสนั่นรอบตัวนักอ่านก็มิใช่จะเบากว่ากันสักเท่าไร

            ด้วยเหตุที่การ์ตูนเป็นศิลปะแขนงหนึ่งมันจึงทำงานเสมือนวาล์วนิรภัยให้กับจิตใจของมนุษย์ ในยามที่ความก้าวร้าวหรือแรงผลักดันทางเพศมากเกินไป ศิลปะก็จะช่วยเปิดวาล์วปลดปล่อยแรงผลักดันทั้งสองออกไปเสียบ้าง ในยามที่ความก้าวร้าวหรือแรงผลักดันทางเพศน้อยเกินไป ศิลปะก็สามารถช่วยยกระดับแรงผลักดันทั้งสองให้มีมากพอที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้แก่ชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น