โดเรม่อน ตอน อยู่คนเดียวที่เมืองในอนาคต

โดเรม่อน ตอน อยู่คนเดียวที่เมืองในอนาคต

อ้ะอ้าวววว----มีตอนสนุกๆมาอีกแล้วค่ะ ลองรับดูรับชมกันนะค่ะ

Animoca’s Doraemon Gadget Rush tops Asia’s app download charts

Animoca Brands is onto a winner with new app Doraemon Gadget Rush. Source: Supplied

Mobile game maker Animoca Brands has made it to the top of the iPad games app download charts in a number of Asian countries — including China, Indonesia, Hong Kong, Brunei and Macau — with its latest game, Doraemon Gadget Rush.

The move up the charts comes less than a month after the company listed on the Australian stock exchange.

The Hong-Kong-based company, which raised $2.4 million when it completed a backdoor listing through a reverse takeover of former resources company Black Fire Minerals on January 23, says the game has been downloaded more than 1.8 million times since its launch on February 5.

โดเรม่อน ตอน - ซานต้าเมล(1)

โดเรม่อน ตอน - ซานต้าเมล(1)

วันนี้เรานำโดเรม่อนตอนสนุกมาให้ทุกคนได้รับชมอีกแล้วคร้าาาาาาาาาา-------

ขอให้ทุกคนรับชมอย่างสนุกนะค่ะ

โดเรมอน ตอน บ่อวิเศษของผู้ตัดฟืน

โดเรมอน ตอน บ่อวิเศษของผู้ตัดฟืน

วันนี้เราก็นำเอาการ์ตูนของพี่โดเรม่อนตอนสนุกๆๆมาให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้รับชมกันอีกตามเคยสนุกไหมล่ะค่ะ-////-

วัดดังสุพรรณฯ เตรียมเปิดตัวซุ้มประตูโดเรมอน-ขุนช้างขุนแผน แทรกศิลปะไทย

 
วัดดังสุพรรณฯ เตรียมเปิดตัวซุ้มประตูโดเรมอน-ขุนช้างขุนแผน แทรกศิลปะไทย


วันที่ 19 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดสำปะซิว ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านฮือฮาหลังทางวัด ได้มีการว่าจ้างช่างมาทำซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศบริเวณรอบอุโบสถโดยมีการปั้นศิลปะไทยสอดแทรกด้วยโดเรมอน และขุนช้างขุนแผน หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าวัดเพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้รู้บาปบุญคุณโทษ



พระนพวี ทิตกุสโร เลขาเจ้าอาวาสวัดสำปะซิว เปิดเผยว่าสำหรับซุ้มประตูอุโบสถทั้ง 4 ด้าน มีการจัดสร้างขึ้นแบบศิลปะการปั้นแบบโบราณมีการปั้นแบบ 4 ภาค ซึ่งงบประมาณกว่า 4 แสนบาทต่อ 1 ซุ้ม เพราะเป็นงานโครงสร้างและงานปั้น การเน้นปั้นลวดลายไทยอ่อนช้อยสอดแทรกเรื่องราวต่างๆ เข้าไปในซุ้มประตูกับงานปั้นอย่างขุนช้าง ขุนแผน และมีการปั้นเป็นรูปโดเรมอนเข้าไปด้วย

เพราะขณะนี้ทางวัดก็เหมือนวัดโดเรมอนที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างซุ้มประตู และน่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ สำหรับการสร้างซุ้มประตูที่มีการสอดแทรกรูปปั้นต่างๆ ที่สอดแทรกนั้นก็หวังต้องการดึงคนเข้าวัดเพื่อให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ให้ธรรมะช่วยกล่อมเกลาจิตใจของคนในยุคปัจจุบันที่อยู่ห่างไกลพระอยู่ห่างไกลวัดอยู่ห่างไกลธรรมะ

ด.ญ.กัญญาณัฐ ท้วมจันทร์ นักเรียนโรงเรียนสุพรรณภูมิ เล่าว่า ตนไม่เคยเห็นงานปั้นแบบนี้มาก่อน และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตื่นเต้นมากจริงๆ พาเพื่อนมาเที่ยวที่วัดเพื่อดูโดเรมอนในอุโบสถแต่เมื่อเดินเข้าและออกซุ้มประตูอุโบสถก็เห็นโดเรมอน ขุนช้างขุนแผน ในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน โดยจะไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อให้มาเที่ยวที่วัดสำปะซิว บ้างเพราะมีหลายอย่างที่เป็นโดเรมอน และต้องใช้เวลาในการหานานกว่าจะพบโดเรมอนแต่ละจุด โดยทางวัดสอดแทรกเข้าไปแค่นิดๆหน่อยๆ ถ้าไม่สังเกตและช่วยกันหารับรองได้ว่าหาไม่พบอย่างแน่นอน

โดเรมี่

โดเรมี (ญี่ปุ่น: ドラミ Dorami โดะระมิ) หรือที่นิยมเรียกในประเทศไทยว่า โดเรมี ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอนโดเรมีเป็นหุ่นยนต์แมวน้องสาวของโดราเอมอน เกิดวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2657 ส่วนสูง 100 เซนติเมตร[1] โดเรมีถูกสร้างขึ้นมาทีหลังโดราเอมอน ถือว่าเป็นหุ่นยนต์รุ่นใหม่กว่า ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าโดราเอมอน โดเรมี จะมีตัวสีเหลือง โบสีแดง มีกระเป๋าสี่มิติไว้เก็บของวิเศษเหมือนโดราเอมอน แต่มีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งของวิเศษยังมีลักษณะที่สวยงาม น่ารัก สมกับเป็นเด็กผู้หญิง โดเรมีชอบเมลอน แต่เกลียดแมลงสาบ โดเรมีเคยมีหูแต่เพราะไปสะกิดปมด้อยของพี่ชายจึงเอาหูออกแล้วใส่โบว์แทนโดเรมีอาศัยอยู่ในโตเกียว คริสต์ศตวรรษที่ 22 กับ เซวาชิ (ญี่ปุ่น: セワシ ?) เหลนของโนบิตะ โดยมาเยี่ยมโดราเอมอนผ่านทางไทม์แมชชีน เป็นครั้งคราว โดเรมีไม่ค่อยปรากฏในโลกปัจจุบัน ยกเว้นในกรณีโดราเอมอนติดธุระสำคัญในโลกอนาคต หรือเกิดเหตุการณ์คับขัน ที่โดราเอมอนไม่สามารถแก้ไขได้ โดเรมีก็จะมาคอยช่วยเหลือเสมอๆ

ไจแอนท์

           โกดะ ทาเคชิ (ญี่ปุ่น: 剛田武 Gōda Takeshi  โกดะ ทะเกะชิ ) หรือ ไจแอนท์ (ジャイアン) ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอน ทาเคชิ หรือที่เพื่อน ๆ เรียกกันในกลุ่มว่า ไจแอนท์ เป็นหนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง เกิดวันที่ 15 มิถุนายน เป็นลูกผู้ชายร้านขายผัก มีรูปร่างใหญ่ แข็งแรง หูเบา ชอบรังแกโนบิตะเสมอๆ แต่ถึงเวลาจำเป็นเขาก็มักช่วยคนอื่น ลึกๆ แล้วจิตใจของเขาเป็นคนโอบอ้อมอารี ไจแอนท์มักจะแย่งของเล่นของเพื่อนเป็นประจำ มีสุภาษิตประจำตัวที่มาจากสุภาษิตอังกฤษว่า "ของนายก็คือของฉัน ของฉันก็คือของฉัน" (What's yours is mine, and what's mine is mine.)นอกจากนั้นไจแอนท์ยังเป็นหัวหน้าทีมเบสบอลในละแวกหมู่บ้านและรักการเล่น เบสบอล มาก ๆ มักจะบังคับโนบิตะ มาเข้าร่วมเล่นเสมอ เพราะว่าทีมไม่ครบ ไจแอนท์มีน้องสาวที่เขารักมาก ชื่อ ไจโกะ เขาเป็นคนที่กลัวแม่มาก แค่ได้ยินเสียงก็กลัวจนต้องวิ่งหนี ในเรื่องการเรียน ไจแอนท์เรียนไม่เก่งเท่าซูเนโอะ แต่ก็ยังเรียนได้ดีกว่า โนบิตะ เขาชอบร้องเพลงมากทั้ง ๆ ที่เสียงไม่เอาไหน แต่เขาคิดว่าตัวเองเสียงดี จึงมักจะโกรธเมื่อเพื่อนไม่ยอมมาฟังคอนเสิร์ตของเขา อีกทั้งไจแอนท์ยังอยากเป็นพ่อครัว แต่ฝีมือทำอาหารของไจแอนท์ก็ไม่เอาไหนไม่ต่างจากการร้องเพลงเลยถึงแม้ดูภายนอกไจแอนท์จะดูเป็นเด็กอันธพาล ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่จริงๆ แล้ว ไจแอนท์เป็นเด็กที่อ่อนไหวง่าย ไม่ว่าจะโกรธ ดีใจ หรือ เสียใจ ก็จะแสดงความรู้สึกออกมาทันที อีกทั้งยังเป็นคนที่รักพวกพ้อง และชอบเล่นตุ๊กตา ในตอนพิเศษหลายๆ ตอน เมื่อถึงเวลาคับขัน ไจแอนท์จะเป็นคนที่กระโดดเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนของตนโดยไม่ลังเล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีให้เห็นในโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ที่บ้านของไจแอนท์เลี้ยงหมาไว้ 1 ตัว ชื่อ มุคุ เป็นหมาที่กินจุและขี้ขลาด แต่ก็สามารถเฝ้าบ้านและจับขโมยได้ แต่จริง ๆ แล้วสัตว์เลี้ยงที่ไจแอนท์ อยากได้จริง ๆ คือ นกแก้ว ไจแอนท์จึงไม่ค่อยสนใจเลี้ยงดู มุคุ เท่าไรนัก และคนที่พา มุคุ ออกไปเดินเล่นทุกวันคือไจโกะ นั่นเอง
ไจแอนท์ยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ ไจเจบิ นิสัยตรงข้ามกับไจแอนท์อย่างเห็นได้ชัด เช่น อ่อนแอ มีมารยาท และมักจะถูกโนบิสุเกะแกล้งพร้อมกับซูเนตะ ลูกของซูเนโอะด้วย

ซูเนโอะ

 โฮเนะคาวา ซูเนโอะ (ญี่ปุ่น: 骨川スネ夫 Honekawa Suneo โฮะเนะกะวะ ซุเนะโอะ) ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอน เกิดวันที่11 พฤษภาคม (แต่จากข้อมูลใน "โดราเอมอนเฮียคคะ" (ドラえもん百科) ที่แต่งโดยโยจิ คาตาคุระ ได้บอกไว้ว่าเกิดวันที่ 28 มีนาคม)
ซูเนโอะ เป็นตัวละครหลักของเรื่องที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเจ้าเล่ห์ คล้ายๆ สุนัขจิ้งจอก ปากแหลม ชอบยุให้ไจแอนท์ รังแกโนบิตะ ซูเนโอะเป็นคนที่ชอบคุยโวโอ้อวด เนื่องจากเป็นคนมีฐานะร่ำรวย เชี่ยวชาญด้านการเต้นบัลเล่และเล่นตลก สิ่งที่เพื่อน ๆ อยากได้ เขามีครบทุกอย่าง เป็นนักสะสมของใช้ มักมีของแพงๆ มาอวดเพื่อนๆ มักจะหาเรื่องแกล้งโนบิตะบ่อยๆ มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักออกแบบ มีน้องชายชื่อ ซูเนสึกุ (ญี่ปุ่น: スネツグ Sunetsugu) อยู่ในการอุปการะของคุณป้าของเขาเอง
ซูเนโอะยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ ซูเนตะ ซึ่งมักจะถูกโนบิสุเกะแกล้งพร้อมกับไจเจบิ ลูกของไจแอนท์ด้วยในบางตอน ซูเนโอะ แสดงความหลงตัวเองให้เห็น ด้วยการชอบส่องกระจกและชมเชยตัวเองว่าเป็น ชายที่หล่อที่สุดในโลก เนื่องจากเขามีรูปร่างที่เล็กที่สุดในกลุ่ม จึงรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นปมด้อยของเขาอยู่ตลอด จึงพยายามที่จะกลบปมด้อยนั้นโดยการชอบคุยโม้โอ้อวดฐานะทางบ้านอยู่เสมอ ความลับอย่างหนึ่งของซูเนโอะที่ไม่อยากให้ใครรู้คือ มักปัสสาวะรดที่นอน ถึงแม้ว่าจะโตจนเรียนระดับประถม แล้วก็ตาม ซูโนโอะจึงต้องใส่ผ้าอ้อมก่อนนอน ซูเนโอะเป็นคนที่ติดแม่มากๆ เพราะแม่ของซูเนโอะค่อนข้างเลี้ยงอย่างตามใจ และมักจะเรียกซูเนโอะว่า "ลูกโอะ" (ญี่ปุ่น: スネちゃま Sunechama) ในโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์หลายๆ ตอน เมื่อเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซูเนโอะมักจะเป็นคนแรกที่ร้องไห้หาแม่ก่อนใคร ๆ ซูเนโอะสูง 136 ซม.หนัก 23 กก.ตอนอยู่อ.1 สูง 140 ซม.หนัก 24.5 กก.ตอนอยู่อ.2 สูง 145 ซม.หนัก 25 กก.ตอนอยู่ป.6เคยมีการตั้งข้อสังเกตว่าบ้านซูเนโอะนั้นรวยจริงหรือ เพราะในทุกตอนที่บ้านซูเนโอะไปเที่ยวตากอากาศที่เกาะมักประสบปัญหาบังกะโล หลังคารั่วบ้าง เรือยอร์ชเสียบ้าง รถเสียบ้าง และพ่อหรือแม่ของซูเนโอะที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น มักบ่นออกมาว่า "ของถูก ๆ ก็อย่างนี้แหละ" ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วบ้านโฮเนะคาวารวยจริงหรือไม่

นิมาโมโตะ ชิซุกะ

   
            มินาโมโตะ ชิซุกะ (ญี่ปุ่น: 源静香 Minamoto Shizuka มินะโมะโตะ ชิซุกะ ) ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอน เกิดวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม โดยข้อมูลวันเกิดดังกล่าวนำมาจากการฉลองครบรอบวันเกิดตัวละคร ของเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์อาซาฮี (แต่จากข้อมูลใน "โดราเอมอนเฮียคคะ" (ドラえもん百科) ที่แต่งโดยโยจิ คาตาคุระ ได้บอกไว้ว่าเกิดวันที่ 2 ธันวาคม)ชิซุกะเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม อาจจะเรียกได้ว่าเป็นนางเอกของ การ์ตูนโดราเอมอน ปกติจะใส่เสื้อชมพู กระโปรงสั้นสีชมพู มีนิสัยใจดี มีความกระตือรือร้น เก่งเรื่องวาดภาพ เย็บปักถักร้อย เรียบร้อย โอบอ้อมอารี และการทำคุกกี้ แต่ที่ชอบที่สุดคือ "การอาบน้ำ" ซึ่งทำให้ในเรื่อง มักจะมีฉากตอนที่เจอชิซุกะกำลังอาบน้ำโดยไม่ได้บังเอิญหลายหน สิ่งเดียวที่ไม่เก่งและชอบคือ "ไวโอลิน" ซึ่งเสียงไวโอลินของชิซุกะนั้น เทียบเท่ากับเสียงร้องเพลงของ ไจแอนท์ เลยทีเดียว ชิซุกะก็มีความสามารถในการเล่น เปียโน ซึ่งเจ้าตัวไม่ชอบเลยสักนิด แต่ต้องจำใจเรียนเพราะคุณแม่อยากให้เรียนชิซุกะเป็นที่หมายปองของเด็กชายในห้องเรียน โนบิตะมีความฝันที่จะได้แต่งงานกับเธอในอนาคต ชิซุกะ ชอบทานแพนเค้กมาก ดังจะเห็นได้จากตอนพิเศษหลายๆ ตอน ชิซุกะจะทานแต่แพนเค้กเสียส่วนใหญ่ แต่จริงๆ แล้วอาหารที่เธอชื่นชอบที่สุดคือ "มันเผา" ซึ่ง ชิซุกะนั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้กินมันเผากองโตเท่าภูเขา แต่นี่ก็เป็นความลับที่ชิซุกะไม่อยากให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ รู้ เพราะความอายชิซุกะสูง 143 ซม.หนัก 42 กก.ตอนอยู่ป.4 สูง 148 ซม.หนัก 40 กก.ตอนอยู่ ป.5 สูง 153 ซม.หนัก 36 กก.ชิซูกะมีสัตว์เลี้ยง 2 ตัวคือ สุนัขพันธุ์อาคิตะ สีขาว ชื่อ เปโร่ ซึ่งอยู่มาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กเล็ก ๆ เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมาก ๆ และนกคานาเรียซึ่งมักจะชอบหนีออกจากกรงนกอยู่บ่อย ๆ

โนบิ โนบืตะ

  โนบิ โนบิตะ (ญี่ปุ่น: 野比のび太 Nobi Nobita โนะบิ โนะบิตะ) ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอน โนบิตะ เป็นตัวละครหลักของเรื่อง เกิดวันที่ 7 สิงหาคม (ราศีสิงห์) เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวโนบิ มีพ่อชื่อ โนบิ โนบิสุเกะ และแม่ชื่อ โนบิ ทามาโกะ ปกติจะใส่แว่น สวมเสื้อโปโลสี เหลืองหรือแดงปกขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีนิสัยขี้แย เป็นคนไม่เอาถ่าน อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตนเอง เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบได้ 0 คะแนนบ่อยๆ มาโรงเรียนสายประจำ ถูกทำโทษบ่อยครั้ง กีฬาก็ไม่ถนัด แต่เล่นพันด้ายเก่ง และเป็นจอมแม่นปืน งานอดิเรกก็คือนอนกลางวัน กับอ่านการ์ตูน ถือว่าเป็นตัวละครที่ไม่เอาไหน แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็มีนิสัยที่ดีอยู่มากเช่นกัน เช่น รักสัตว์ ขี้สงสาร รักเพื่อน อารมณ์อ่อนไหว และรักความยุติธรรม ยอมนำตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ ในความเป็นจริงแล้วโนบิตะเป็นคนที่รัก พ่อ แม่ และย่าของเขามากแต่ด้วยวัยที่และสภาพครอบครัวที่ค่อนข้างเป็นแบบยุคเก่า ทำให้การแสดงออกทางความรักต่อกันมีน้อย ในเนื้อเรื่องมักจะมีการแสดงออกถึงความรักในครอบครัวในเวลาคับขัน เช่น ใครบางคนหายไปจากบ้านเป็นเวลานานๆ หรือมีใครป่วยไข้ไม่สบาย ด้วยลักษณะนิสัยที่มีมิติความเป็นมนุษย์อยู่มากเช่นนี้ จึงทำให้ตัวละครนี้สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลกได้ไม่ยาก โนบิตะหลงรักชิซุกะ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน มีความหวังที่จะได้แต่งงานด้วยเมื่อเขาโตขึ้น แต่ก็มักจะมีอุปสรรค และมีคู่แข่งหลายคนโดยเฉพาะเดคิสุงิ เนื่องจากชิซุกะ เป็นเด็กน่ารัก และด้วยความอ่อนแอของโนบิตะเอง แต่โนบิตะ ได้เพื่อนรักคือโดเรมอนคอยช่วยเหลือ จากการโดนกลั่นแกล้งของไจแอนท์ และซูเนโอะทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

โดราเอม่อนในประเทศต่างๆ

โดราเอม่อนในประเทศต่างๆ
โดราเหม็ดทรี : Doramed III

ประเทศที่เกิด : อาหรับ 
อาชีพ : นักเวทย์มนต์ 
จุดอ่อน : ว่ายน้ำไม่เป็น
จุดแข็ง: มีเวทย์มนต์
ลักษณะส่วนตัว 
เป็นแมวที่รวยคนหนึ่งในอาหรับ เขารู้วิธีการใช้เวทย์มนต์ เมื่อเขาโกรธ เขาจะกลายเป็นยักษ์ เขากลัวน้ำมากที่สุด (มันก็คล้ายๆ กับโดราเอม่อนที่กลัวหนูนั่นแหละ)


โดรานิคอฟ : Doranikov

ประเทศที่เกิด : รัสเซีย 
อาชีพ : นักแสดง 
จุดอ่อน : กลัวความหนาว
จุดแข็ง: สามารถกลายเป็นหมาป่าเมื่อเห็นวัตถุทรงกลม
ลักษณะส่วนตัว 
เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง โดเรนิคอฟ เป็นแมวที่ช้ามากๆ ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยพูดมาก เขามักจะเขียนสิ่งที่เขาต้องการพูดลงในเศษกระดาษเท่านั้น


โดรานินโญ่ : Doraninho

ประเทศที่เกิด : บราซิล
อาชีพ : นักฟุตบอลมืออาชีพ
จุดอ่อน : ด้านความจำ 
จุดแข็ง: วิ่งเร็ว
ลักษณะส่วนตัว
เขาเป็นแมวที่เล่นฟุตบอลเก่งระดับมืออาชีพ และจะเล่นฟุตบอลเกือบทุกวัน เขามีความหวังทางด้านความจำของเขา เขามักจะลืม สิ่งต่างๆ แล้วชอบหัวเราะในสิ่งที่คนอื่นๆ 
ไม่หัวเราะกัน เขาวิ่งได้เร็วมาก สมกับที่เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ


โดราเดอะคิด : Dora The Kid

ประเทศที่เกิด : นิวยอร์ค อเมริกา
อาชีพ : เป็นผู้ช่วยของบริษัท
จุดอ่อน : กลัวความสูง 
จุดแข็ง: แม่นปืน
ลักษณะส่วนตัว 
โดราเดอะคิดมีประโยชน์ และเป็นแมวที่กล้าหาญมาก เขาช่วยให้อเมริกาพ้นจากความหายนะเป็นอย่างมาก เขาก็ทำงานในบริษัทในยุคศตวรรษที่ 21 


หวังโดรา : Wang Dora

ประเทศที่เกิด : จีน 
อาชีพ : เลขานุการของโรงพยาบาล 
จุดอ่อน : ผู้หญิง
จุดแข็ง: การเรียน กังฟู เป็นหมอที่ดี
ลักษณะส่วนตัว
เขาเป็นแมวที่ฉลาด เป็นหมอที่ดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น ความสามารถเฉพาะตัวเขาคือกังฟู แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นผู้หญิงเขามักจะเซ่อซ่า ทำอะไรไม่ถูก


เอล-มาทาโดรา : El matadora

ประเทศที่เกิด : สเปน 
อาชีพ : ทำงานในร้านอาหารฟาสท์ฟูด
จุดอ่อน : นอนมากเกินกว่าปกติ เมื่อเขาเหนื่อย 
จุดแข็ง: แข็งแรง มีกำลังมาก
ลักษณะส่วนตัว 
เขาเป็นแมวที่หล่อ เขาทำงานในร้านอาหารฟาสฟูด เพราะเขามีพลกำลังมากจึงทำจานแตกบ่อยๆ และเขาก็โดนเจ้าของร้านดุบ่อยๆ เช่นกัน เป็นนักสู้วัวกระทิง 
ชอบพิซซ่า และ อาหารสเปนเป็นที่สุด

######################################################################################

สิ่งที่ชอบ-เกลียด

สิ่งที่ชอบ-เกลียด

 
สิ่งที่ชอบที่สุดคือขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยสามารถกินโดรายากิขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมด และเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้ว สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอมอนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว "โนราเมียโกะ" มันจึงกลายเป็นของโปรดของเขามาตั้งแต่บัดนั้น เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่ามีร้านค้าร้านไหนที่ขายโดรายากิลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี้เอง จึงทำให้โดราเอมอนให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก เขามักจะมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขายขนมบ่อยครั้ง ในเวลาที่ทางร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไป
นอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอมอนชอบก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอมอนได้กิน ก็บอกว่า อร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้วยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว
 
ส่วนสิ่งที่โดราเอมอนเกลียดและกลัวที่สุดคือ หนูเพราะเคยโดนหนูกัดหูจนหูแหว่งไปทั้ง 2 ข้างตอนหลับ นอกจากนั้นยังกลัว แฮมสเตอร์ ด้วย (จากตอนพิเศษ "กำเนิดประเทศญี่ปุ่น") เพราะโดราเอมอนถือว่าเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู
######################################################################################

ต้นกำเนิิดโดเรมอน

ต้นกำเนิิดโดเรมอน
โดราเอมอนถูกผลิตขึ้นในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้โดราเอมอน
มีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ (และได้พบกับเพื่อนๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอมอน ที่นั่น) 
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน "โรบ็อต ออดิชัน" ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก 
เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โดราเอมอนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานะของหุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก (จากตอนพิเศษ "กำเนิดโดราเอมอน ปี 2112") 
แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน 

แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง 
และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอมอนไม่มีหู 
เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอมอนหยิบผิดกินยาโศกเศร้าแทน 
ทำให้โศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่าที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียด และกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจ
ในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก

นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน 
จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ

รายชื่อของวิเศษของโดราเอมอน

รายชื่อของวิเศษของโดราเอมอน

กระเป๋ามิติที่ 4 [16,พิเศษ 1] (ญี่ปุ่น: 四次元ポケット Fourth-dimensional pocket ?) (ตอน กระเป๋า 4 มิติ)

คอปเตอร์ไม้ไผ่ [1,พิเศษ 1] (ญี่ปุ่น: タケコプター Bamboo-copter ทาเกะโคะปุตา ?) มีลักษณะเป็นใบพัด 2 แฉก วิธีใช้คือนำไปติดไว้บนศีรษะ และจากนั้นคอปเตอร์ไม้ไผ่จะทำให้ผู้ใช้ลอยขึ้นไปในอากาศ ในลักษณะเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้มาก คอปเตอร์ไม้ไผ่ใช้พลังงานเป็นแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 8 ชั่วโมง หากหมดก็จะตกจากบนท้องฟ้าทันที เหมาะสำหรับการเดินทางที่ระยะทางไม่เกิน 600 กิโลเมตร ของวิเศษชนิดนี้เป็นของวิเศษที่ขายดีที่สุดในของวิเศษมากกว่า 1,000 ชนิด

คอปเตอร์ไม้ไผ่

(ตอน ผู้มาจากโลกอนาคต)

• ไทม์แมชชีน [1,พิเศษ1] (ญี่ปุ่น: タイムマシン Time machine ?) เป็นยานเดินทางข้ามเวลา สามารถขึ้นไทม์แมชชีนเพื่อไปยังอดีตหรืออนาคตได้ ซึ่งเมื่อลงจากไทม์แมชชีนแล้วไทม์แมชชีนจะจอดรอเป็นห้วงเวลารูปวงกลม และจะเปิดทางออกจากอดีตหรืออนาคตที่ลิ้นชักโต๊ะของโนบิตะ(ตอน ผู้มาจากโลกอนาคต) โดยของโดราเอมอนสามารถจุคนได้แค่ 3 คน แต่ของโดเรมีสามารถจุคนได้มากกว่า 5 คนขึ้นไป
• ประตูไปที่ไหนก็ได้ เพียงแค่บอกจุดหมายที่ต้องการ เมื่อเดินผ่านประตูนี้ก็จะไปถึงจุดหมายทันทีแต่ในโดราเอมอนตอนตะลุยอวกาศนั้นไม่สามารถข้ามดาวนั้นไปหาดาวนี้ได้เพราะไกลเกินไปและจำเป็นจะต้องมีข้อมูลแผนที่โลกในยุคสมัยหรือดวงดาวนั้นๆด้วย แต่ในโดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอนบุกอาณาจักรเมฆ ประตูไปที่ไหนก็ได้ สามารถย้อนเวลาได้ เนื่องจากเสริมลูกบิดย้อนเวลา ทำให้มีลักษณะคล้ายไทม์แมชชีน(ตอน เป็นอะไรๆ กับโมโมทาโร่กันแน่)
• ไฟฉายย่อส่วน เมื่อไฟฉายนี้ฉายแสงไปที่ คน สัตว์ หรือสิ่งของใดๆ จะทำให้มีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ ที่คุณถือไม่ถนัด(ตอน แม้ในน้ำ ในกระเพาะอาหาร)
• ขนมดังโงะโมโมทาโร่ เมื่อให้ขนมดังโงะโมโมทาโร่กับสัตว์จะเชื่องทันทีไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดุร้ายแค่ไหน

แต่ถ้าใช้กับคนจะไม่ได้ผล ส่วนมากโดราเอมอนจะใช้ในตอนเดอะมูฟวี่(ตอน ทาร์ซานอวกาศ)

โค่ยแรงกิ้ง สุดยอดอันดับจากญี่ปุ่น 5 อันดับ เหตุผลที่โดราเอมอนได้รับความนิยม

  และเนื่องจาก “โดราเอมอน” เป็นตัวการ์ตูนที่โด่งดังตลอดกาลในญี่ปุ่น ดังนั้น ในวันนี้ สุโค่ยแรงกิ้งจึงขอเสนอผลสำรวจจากทาง NTT Docomo ที่ได้ไปสอบถามคนญี่ปุ่น เกี่ยวกับเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้เจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าตัวนี้เป็นขวัญใจของคนทั้งโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยของเราเองด้วย ว่าแต่เสน่ห์ดึงดูดที่มีอยู่ในตัวโดราเอมอนนั้นจะมีอะไรบ้าง? เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาลองติดตามและรับฟังกันได้เลยค่ะ

อันดับ 5 เพราะการ์ตูนเรื่องนี้มีความรักแฝงอยู่

          การ์ตูนเรื่อง “โดราเอมอน” เป็นการ์ตูนที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคตในศตวรรษที่ 22 ที่ย้อนอดีตมาช่วยโนบิตะให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบและต่างก็มอบความรักให้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนวาดหรือแม้กระทั่งผลงานที่ถูกสร้างสรรค์ออกมา

อันดับ 4 คาแร็กเตอร์ของตัวการ์ตูนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          นอกจากโดราเอมอนและโนบิตะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชิสึกะ, ไจแอนท์, ซึเนโอะ และตัวละครอื่นๆ ต่างก็มีลักษณะคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลยทีเดียว

อันดับ 3 ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ดูได้

          ในโดราเอมอนเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น ผู้ใหญ่ก็สามารถติดตามเนื้อเรื่องได้จนบางครั้งเนื้อเรื่องก็ซึ้งจนเรียกน้ำตาออกมาแบบไม่รู้ตัว... การ์ตูนที่สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แบบนี้มีจำนวนไม่มากหรอกนะคะ

อันดับ 2 ความล้ำเลิศของเหล่าบรรดาของวิเศษ

          หากพูดถึงโดราเอมอนแล้ว เราก็จะนึกถึงของวิเศษมากมายที่มีเสน่ห์ดึงดูดจนอยากให้ของวิเศษเหล่านั้นมีอยู่จริง ซึ่งในปัจจุบันนี้ ของวิเศษเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็นจริงแล้วด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน และมีการตระเวนจัดงานให้ผู้คนได้สัมผัสประสบการณ์ใน “งานจัดแสดงอนาคตทางวิทยาศาสตร์ของโดราเอมอน” ซึ่งได้ตระเวนจัดไปทั่วประเทศ โดยเริ่มจากในกรุงโตเกียวเมื่อปี 2010 และในปีนี้ก็มีโครงการจะจัดการแสดงที่เมืองนาโกย่าในเดือนมีนาคม เป็นระยะเวลา 2 เดือนด้วยค่ะ

อันดับ 1 โดราเอมอนช่วยเติมเต็มความฝันของผู้คน

          โดราเอมอนนั้น เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆ เพราะได้ช่วยมอบความฝันและความหวังแก่บรรดาคนดูและคนอ่านการ์ตูน อย่างเช่นว่า “ถ้ามีของสิ่งนั้นได้จริงก็ดีสิ” หรือ “ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้จริงก็ดีสิ” ซึ่งจะเห็นได้จากของวิเศษยอดฮิตอย่าง “คอปเตอร์ไม้ไผ่” หรือ “ประตูวิเศษ” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือคนไทยเอง เมื่อได้ดูแล้วก็อาจจะมีความฝันและจินตนาการถึงของวิเศษได้ไม่ต่างกันเลยค่ะ

ประวัติโดราเอมอน

        ก็เพิ่งผ่านกันมาได้ไม่นานกับงานฉลองวันก่อนเกิดของโดราเอมอน 100 ปี ในวันที่ 3 กันยายน 2012 ที่ผ่านมา หลายๆ คนก็คงจะสงสัยความเป็นมาของโดราเอมอน ทำไมถึงเป็นแมวสีฟ้า ทำไมเป็นแมวแต่ไม่มีหู? วันนี้กระผมจะมาแถลงไขให้เพื่อนๆ หายข้องใจกันเลยนะจ๊ะ

ประวัติโดราเอมอน

ชื่อ : โดราเอมอน Doraemon

วันเกิด : 3 กันยายน 2112

น้ำหนัก : 129.3 kg

ความสูง : 129.3 cm

วิ่งได้เร็วสุดที่ : 129.3 km/hr

กระโดดได้สูงสุด : 129.3 cm

มีพละกำลัง : 129.3 แรงม้า

รอบหัว/รอบอก/รอบเอว : 129.3 cm

ทำไมโดราเอมอนถึงไม่มีหู

 หลังจากโดนแถะหู โดราเอมอน ก็ได้ไปที่ รพ.หุ่นยนต์ แต่ด้วยความซวยซ้ำสองเกิดอุบัติเหตุอีกรอบ ทำให้แทนที่จะเป็นการซ่อมหู คราวนี้ดันโดนลบหูหายไปเลยซะงั้น พร้อมกับที่ โนราเมียโกะ มาเยี่ยมและเห็นสภาพหัวใสนิ๊งของโดราเอมอน (เป็นคนก็คงหัวล้าน) ทำให้โดราเอมอนเสียใจมากและหนีออกมา

4. Are there Doraemon gadgets in real life?
An estimated 4,500 gadgets have made their appearance in the thousands of comic books, cartoons and movies based on Doraemon.
While the Anywhere Door, which lets the user travel to any location he or she wants is still out of reach, there was an exhibition in 2010 which showed how modern technology could approximate the marvels that come out of Doraemon's yogigen-pocket (four dimensional pocket).
They included an invisibility cloak that allows the wearer to become transparent, medical micro robots, and a brain-wave sensor that is reminiscent of Dream TV that the cat used to view others' dreams.
One gadget that is a reality today is the 3D printer, which appeared in one episode of the comic as a "Mecha-maker".
5. Who is Doraemon's creator?
Doraemon is the creation of Hiroshi Fujimoto and Motoo Abiko. The duo were known by their pen name Fujiko Fujio. They drew many manga together from 1951 till 1987 when they split.
The idea for Doraemon came about from a trio of incidents that happened to Fujimoto: He had tripped over his daughter's toy; he heard a neighbourhood cat fight; and he had been wishing for a machine to help him come up with a new manga concept, according to various accounts
- See more at: http://www.straitstimes.com/lifestyle/more-lifestyle-stories/story/why-doraemon-blue-and-4-other-things-you-might-not-have-known#sthash.YHzY0N4M.dpuf

What does Doraemon mean?

 

4. Are there Doraemon gadgets in real life?
An estimated 4,500 gadgets have made their appearance in the thousands of comic books, cartoons and movies based on Doraemon.
While the Anywhere Door, which lets the user travel to any location he or she wants is still out of reach, there was an exhibition in 2010 which showed how modern technology could approximate the marvels that come out of Doraemon's yogigen-pocket (four dimensional pocket).
They included an invisibility cloak that allows the wearer to become transparent, medical micro robots, and a brain-wave sensor that is reminiscent of Dream TV that the cat used to view others' dreams.
One gadget that is a reality today is the 3D printer, which appeared in one episode of the comic as a "Mecha-maker".
5. Who is Doraemon's creator?
Doraemon is the creation of Hiroshi Fujimoto and Motoo Abiko. The duo were known by their pen name Fujiko Fujio. They drew many manga together from 1951 till 1987 when they split.
The idea for Doraemon came about from a trio of incidents that happened to Fujimoto: He had tripped over his daughter's toy; he heard a neighbourhood cat fight; and he had been wishing for a machine to help him come up with a new manga concept, according to various accounts
- See more at: http://www.straitstimes.com/lifestyle/more-lifestyle-stories/story/why-doraemon-blue-and-4-other-things-you-might-not-have-known#sthash.YHzY0N4M.dpuf

SINGAPORE - Doraemon

SINGAPORE - Doraemon, the plumped-face blue cat robot from the future, is a beloved manga character many of us grew up with.
We all know how most of the series' stories go: The lazy and weak-minded Nobita Nobi begs Doraemon for a gadget to rescue him from a sticky situation. But almost inevitably, Nobi finds a way to take things too far and gets into even more trouble. The story usually ends on a happy note, and comes with a subtle moral lesson.
Forty-five years after the character first appeared, he continues to be popular. This month, Straits Times readers voted a Doraemon Christmas tree as their  favourite tree in a shopping mall, and a new 3D movie is out in the theatres.
Here are some facts about the resourceful cat you may not have known:
1. What does Doraemon mean?
"Dora" is a play on words. It can mean "stray" in Japanese, and has connotations of being unwanted. It also means "gong", a reference to Doraemon's round body, and his favourite food, dorayaki (sweet Japaneses pancakes with a red bean filling).
"Emon" is an archaic suffix for male names.
2. When was Doraemon made?
Unlike Hello Kitty, Doraemon is definitely a cat, but why doesn't he have ears?
The robot came with cat ears and was painted yellow when it was first manufactured at the factory on Sept 3, 2112, and his production code was MS-903.
The movie 2112: The Birth Of Doraemon (1995) gives a detailed history of his genesis, and his troubles as a defective robot.
In a nutshell, robot mice ate his ears, giving him a phobia of rodents. Sad and tramautised from the ordeal, he sobbed until he turned blue. His voice also turned hoarse from all the weeping.
3. How did Doraemon end up in the present?
He was sent back in time by his owner Sewashi Nobi to help his bumbling grandfather Nobita, who had burdened his descendents with debt due to his bad choices.
In a famous scene from the original manga, which debuted in 1969, the robot appears out of Nobita's desk drawer.