วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

***ตอนจบทั้ง 3 แบบ  ***

ตอนจบทั้ง 3 แบบ 

ความเป็นมาของ โดราเอม่อน ตอนจบ
พล็อตเรื่อง โดราเอม่อนตอนจบนั้น ตามที่ได้ทราบกันดีนั้น คือมีที่มาจากฟิกชั่น ที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตทั้งในรูปแบบ แฟนฟิคชั่น ข่าวลือ หรือ เมล์ลูกโซ่ โดย พล็อตนั้นก็มีหลายหลาย ส่วนมากที่พบจะเกี่ยวกับ ความตาย, ความฝัน, อุบัติเหตุ ซึ่งที่พบเห็นบ่อย ก็จะมีอยู่ใน 3 รูปแบบ คือ
1) โนบิตะ เป็นคนสร้างโดราเอม่อน
***โปรดติดตาม***

"โดเรม่อน" จะกลับมาแล้วที่ช่อง MCOT

ดีใจมาก "โดเรม่อน" จะกลับมาแล้วที่ช่อง MCOT Family 3 พ.ย. ตั้งแต่ตอนแรก

อนิเมะการ์ตูนทีวีโดราเอมอนMCOT HDMCOT Kids
ใครที่ชอบโดเรม่อนคงต้องร้องดีใจแน่ๆ เพราะ "โดเรม่อน" จะกลับมาแล้วที่ช่อง MCOT Family 3 พ.ย. เวลา 20.30-21.00 น. จันทร์-ศุกร์ จะฉายตั้งแต่ตอนแรก ผมเองก็รอมานานหลังจากที่ช่อง 9 MCOT เอาโดเรม่อนมาฉายไม่ต่อเนื่อง ชอบฉายไปไม่นานเท่าไรก็หยุดหายไป ทำให้แฟนๆเสียอารมณ์ไม่น้อย คิดว่ามาแายที่ช่องนี้น่าจะฉายได้นานและต่อเนื่องยาว หวังว่าจะฉายจนถึงเวอร์ชั่นปัจจุบันนะครับ

   และวันเสาร์-อาทิตย์ก็พบกับโดเรม่อนได้ที่ ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ เสาร์ เวลาประมาณ 07.40 (เพราะตอนประมาณ 08.00 จะมีรายการพิเศษของรัฐบาล) อาทิตย์ 08.00 เวลาประมาณนี้ ลองกะเวลาดูละกันนะครับ

ขนมป๊อกกี้สุดไฮเทค! เสกโดราเอมอน 3 มิติออกจากกล่อง!!

ขนมป๊อกกี้สุดไฮเทค! เสกโดราเอมอน 3 มิติออกจากกล่อง!!


ก่อนหน้านี้เว็บไซต์เราเคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับโดราเอมอนฉบับอนิเมชั่น 3D ไปแล้ว ซึ่งเป็นหนังภาคพิเศษที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 80 ปีของผู้แต่งโดราเอมอน  ตอนนี้ทางผู้ผลิตขนมป๊อกกี้อย่างกุลิโกะก็มีการจัดทำป๊อกกี้รุ่นพิเศษออกมาเฉลิมฉลองเช่นกัน แถมไม่ธรรมดาตรงที่สามารถเสกโดราเอมอน 3 มิติออกจากกล่องมาได้ด้วย!




บริษัทกุลิโกะผู้ผลิตขนมป๊อกกี้ได้ออกแพคเกจขนม Pocky, Pretz และ Collon รุ่นพิเศษเพื่อเป็นการต้อนรับอนิเมชั่น Stand by me Doraemon หนังโดราเอมอนที่ทำออกมาในรูปแบบ 3D เป็นครั้งแรก  เมื่อแกะกล่องขนมออกมา  ภายในเราจะพบกับรูปโดราเอมอน  ซึ่งเราสามารถระบายสีรูป  แล้วนำ Smartphone ที่ลงแอพพลิเคชั่นพิเศษไปสแกนรูปที่เราระบายสีไว้  ทันใดนั้นเองโดราเอมอนแบบ 3 มิติก็จะปรากฎเป็นภาพเคลื่อนไหวออกมาด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Augmented Reality (AR)









ความเก๋ไก๋ของเจ้าภาพสามมิติโดราเอมอนที่โผล่ออกมานี้คือสีสันที่ปรากฎจะเหมือนกับที่เราระบายลงไปในรูปเป๊ะ  ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเลือกสีสันให้โดราเอมอนได้ตามใจเรานั่นเอง  หากอยากจะเอาไปอวดเพื่อนก็สามารถกดถ่ายรูปจากในแอพฯเก็บไว้ได้ด้วย

ข่าวลือเรื่องรักๆๆ นี่มันหยุดไม่ได้จริงๆ

วันนี้เราเอาการ์ตูนดีๆๆจากพี่โดเรม่อนมาให้เพื่อนๆดูนะคร้าาาา




   

           
                       ***วันนี้เรานำการ์ตูนดีๆๆมีสาระของพี่โดเรม่อนมาให้เพื่อนๆๆดูกันนะค่ะ
                 เราหวังว่าเพื่อนๆๆคงสนุกกับตอนที่เรานำมาเสนอให้เพื่อนๆๆดูนะค่ะ****

                     +++++พิพิธภัณฑ์โดเรม่อน+++++

ใครบ้างไม่รู้จัก “โดราเอมอน” เจ้าหุ่นยนต์แมว หัวโตกลมดิก กับกระเป๋าสารพัดนึกที่เขาล้วงออกมาช่วยเด็กสมองทึบอย่างโนบิตะและเพื่อนพ้องในการแก้ปัญหาต่างๆจนกลายเป็นการ์ตูนที่ท็อปฮิตและรู้จักไปทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา


หัวหน้าทีมซอกแซกแม้จะเป็นเด็กโข่งอายุเกือบ 40 ปีแล้วกระมัง เมื่อการ์ตูนชุดโดราเอมอนเข้ามาฮิตในเมืองไทย เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ก็ยังอดมิได้ที่จะเป็นแฟนคลับติดตามซื้อหามาอ่านแทบทุกตอนและทุกเล่มที่พิมพ์จำหน่ายในประเทศ

อ่านคนเดียวไม่พอ...บังคับให้ลูกๆอ่านด้วย จนกลายเป็นแฟนการ์ตูนชุดนี้ไปทั้งครอบครัวว่าอย่างนั้นเถิด

เมื่อมีโอกาสไปตะลุยโตเกียวอีกหนด้วยตนเองโดยไม่พึ่งพาบริษัททัวร์คราวนี้ สมาชิกของครอบครัวเราจึงมีมติว่าควรจะไปเยี่ยมเยียน “พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน” หรือชื่อเรียกที่ถูกต้องคือพิพิธภัณฑ์ “ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ” ตามชื่อของนักวาดการ์ตูนผู้ให้กำเนิดการ์ตูนชุดนี้อย่างชนิดเป็นเอกฉันท์ ไม่มีเสียงแตกแม้แต่เสียงเดียว

พิพิธภัณฑ์โดราเอมอนก่อร่างสร้างเสร็จและเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2011 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ณ เมือง คาวาซากิ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหานครโตเกียวเท่าใดนัก

จำได้ว่าลูกๆเขาพาขึ้นรถไฟที่สถานีชินจูกุแล่นออกไปนอกเมืองสักพักหนึ่งก็สามารถเดินทางไปถึงสถานีปลายทางโดยง่ายดาย

เมื่อไปถึงสถานีคาวาซากิก็จะมีรถบัสที่วาดภาพโดราเอมอน-โนบิตะ-ไจแอน และพลพรรคการ์ตูนชุดนี้ทั้งชุดอยู่ข้างรถมารับไปส่งถึงพิพิธภัณฑ์ที่จะเปิดเพียงวันละ 4 รอบเท่านั้น คือ 10 โมงเช้า, เที่ยง, บ่าย 2 และบ่าย 4 โมง

ที่สำคัญจะต้องจองบัตรล่วงหน้า และไปดูชมได้ตามวันที่ซื้อบัตรล่วงหน้าไว้ ตามวันที่และเวลาที่กำหนด ไม่มีการขายบัตรหน้าพิพิธภัณฑ์อย่างเด็ดขาด

พอดีครอบครัวของเรามีพรรคพวกอยู่ที่โน่นก็เลยฝากให้เขาจองให้ จึงมีสิทธิ์ไปดูชมในรอบบ่าย 4 โมงของวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ความจริงพิพิธภัณฑ์ของเขาก็ไม่ใหญ่โตอะไรนัก เป็นตึกสูงแค่ 4-5 ชั้นเท่านั้น แต่ออกแบบมีบริเวณภายนอกเป็นสวนที่สวยงาม และมีรูปหุ่นของดาราในการ์ตูนชุดนี้มายืนรอให้ถ่ายรูปด้วยเป็นจุดๆ

ภายในพิพิธภัณฑ์ก็จัดไว้ในลักษณะเดียวกับพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ทั้งหลาย คือมีทั้งการแสดงด้วยภาพ ด้วยกราฟ และด้วยสื่อทันสมัยต่างๆ ลำดับเรื่องราวประวัติชีวิตของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต ผู้ให้กำเนิดโดราเอมอนเป็นหลัก

โดยนำภาพเก่าๆ ต้นฉบับที่เป็นลายมือเขียนเก่าๆก่อนตีพิมพ์มาแสดงให้ดูเป็นช่วงๆ

แฟนๆโดราเอมอนคงจะพอจำได้ว่าการ์ตูนชุดนี้เป็นฝีมือของ “เพื่อนรัก” คู่หนึ่งที่เกิดและเติบโต ณ จังหวัดโทยามะมาด้วยกัน สนใจและหัดเขียนการ์ตูนมาด้วยกัน โดยใช้นามปากการ่วมกันว่า “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ” เมื่อเข้าสู่วงการการ์ตูน

เพื่อนซี้คู่นี้ได้แก่ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต กับ โมตู อาบิโกะ เกิดเมื่อ ค.ศ.1933 คนหนึ่ง และ 1934 อีกคนหนึ่ง แก่กว่ากันแค่ปีเดียว...ทั้ง 2 หัดเขียนการ์ตูนพร้อมๆกัน เข้าสู่โตเกียวในเวลาไล่เลี่ยกัน และเมื่อดังแล้วก็มาจัดตั้งบริษัทหุ้นส่วนดูแลการ์ตูนต่างๆที่ทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันเขียนตั้งแต่ปี 1963 ก่อนจะให้กำเนิดโดราเอมอนในปี 1970 (พ.ศ.2513) เสียด้วยซ้ำ

จนกระทั้งปี 1987 ทั้ง 2 จึงตัดสินใจแยกทางกันในทางธุรกิจ แต่ยังคงคบหากันต่อไปด้วยดี โดย ฮิโรชิ ฟูจิโมโต ซึ่งย้ายไปอยู่ที่เมือง คาวา-ซากิ ยังเดินหน้าเขียนการ์ตูนสำหรับเด็กๆอยู่เหมือนเดิม ในขณะที่ โมตู อาบิโกะ หันไปเขียนการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่หรือหนุ่มสาวตามที่เขาถนัด

มีรายงานว่าสาเหตุที่เพื่อนซี้คู่นี้ตัดสินใจยกเลิกความเป็นหุ้นส่วนในบริษัทดั้งเดิมของเขาเป็นเพราะ ฟูจิโมโต รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งและจะมีอายุไม่ยืนยาว จึงแยกตัวออกมาเพื่อจัดการในส่วนที่เป็นลิขสิทธิ์ของทั้ง 2 คนเสียให้เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ฟูจิโมโตก็มีอายุยืนยาวต่อมาได้อีกถึง 10 ปีหลังจากนั้น และเสียชีวิตในปี 1996

พิพิธภัณฑ์โดราเอมอนที่เมืองคาวาซากิจึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต เกือบทั้งหมด ซึ่งเมื่อเปิดบริการในปี 2011 แล้วก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากคนญี่ปุ่นที่แห่แหนไปดูไปชมอย่างเนืองแน่นแทบทุกรอบที่เปิดแสดง ทั้งๆที่ต้องจองตั๋วล่วงหน้าหลายวัน

วันที่ผมและครอบครัวไปเยี่ยมชมก็แน่นเอี้ยดเลยครับ แน่นขนาดห้องอาหารของเขาไม่พอนั่ง แถมตามรูปปั้นการ์ตูนต่างๆก็มีคนยืนรอคิวถ่ายรูปด้วยยาวเหยียด

เจ้าแมวโดราเอมอนยังเป็นขวัญใจของชาวญี่ปุ่นทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนแก่ (มีหลายๆ คนที่ไปดู) อย่างแท้จริงแม้ในปัจจุบัน

กล่าวกันว่า การ์ตูนชุดนี้มีเรื่องราวทั้งหมด 1,344 เรื่องราว พิมพ์เป็นเล่มเฉพาะที่ญี่ปุ่น 45 ชุด จำหน่ายได้กว่า 80 ล้านเล่ม ในการสำรวจเมื่อปี 1992 นอกจากนี้ยังได้รับการสร้างเป็นหนังชุดทางทีวี 1,787 ตอน และฉายตอนสุดท้าย เมื่อ 25 มีนาคม 2005

ได้รับรางวัลนับไม่ถ้วนจากสมาคมนักเขียนการ์ตูนของญี่ปุ่นและสมาคมศิลปะของญี่ปุ่น รวมทั้งได้รับการยกย่องจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ให้โดราเอมอนเป็น “ทูตการ์ตูน” เมื่อปี 2008 นับเป็นตัวการ์ตูนตัวแรกที่ได้รับการยกย่องในลักษณะนี้ และก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2002 นิตยสาร ไทม์ ฉบับเอเชียได้ยกย่องให้ โดราเอมอนเป็น 1 ใน 25 วีรบุรุษของเอเชียและแน่นอนคงต้องบันทึกด้วยว่าเจ้าโดราเอมอนได้กลายเป็นตัวเอกในวีดิโอเกมถึง 63 ชุดเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงยังคงรักโดราเอมอนและยังไปแสดงความระลึกถึงโดราเอมอนและฮิโรชิ ฟูจิโมโต แน่นขนัดแม้ในปัจจุบัน

ป.ล. เมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2012 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาเมืองคาวาซากิได้ลงมติยอมรับให้โดราเอมอนเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของเมืองนี้ไปเรียบร้อยแล้ว นับเป็นเวลา 100 ปีพอดี ก่อนวันเกิดที่แท้จริงของโดราเอมอน

อย่าลืมนะครับ เขาเป็นหุ่นยนต์ในอนาคต ได้รับการสร้างขึ้นเมื่อปี 2112 แต่ถูกส่งผ่านประตูเชื่อมกาลเวลามาช่วยโนบิตะในยุคปัจจุบัน.


“ซูม

งานศพโดเรม่อน

               ***********งานศพโดเรมอน***********




พิลึกคนจัดงานศพให้ตุ๊กตาโดเรมอน สาวใหญ่ผูกพัน เข้าฝัน-เชื่อมีชีวิต (ข่าวสด)

        ชาวบ้านกรุงเก่า จัดงานศพตุ๊กตาโดเรมอน เผยเป็นสาวใหญ่วัย 48 ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด ท้อแท้ชีวิตทั้งมีปัญหาเรื่องงานและปัญหาครอบครัว ตระเวนทำบุญเข้าวัดจนพบพระสมภารวัดสามัคคีธรรมที่สระบุรี พระมอบตุ๊กตาโดเรมอนให้มาเลี้ยงเก็บไว้ เผยตั้งชื่อ "จิเหว่ย" ระบุตลอดเวลาเหมือนตุ๊กตามีชีวิต อีกทั้งทำให้อาการเจ็บไข้หายไป และมีเงินทองจากการถูกรางวัลลอตเตอรี่ จนมีบ้านราคาเป็นล้าน ล่าสุดตุ๊กตามาเข้าฝันขอลา และขอให้ทำพิธีศพแบบคน เจ้าอาวาสที่มอบให้เผยเป็นตุ๊กตาที่ผ่านพิธีปลุกเสกในงานฝังลูกนิมิต

        เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดมหาโลก ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานศพให้กับตุ๊กตา จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่า ภายในวัดมีการแสดงลิเกมีร้านค้ามาตั้งขายของ บริเวณศาลาการเปรียญมีการจัดงานศพเหมือนกับงานศพคนปกติ มีหีบศพไม้สักลวดลายงดงามขนาดเล็กยาวประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่บนแท่น มีภาพเด็กผู้หญิงตั้งหน้าศพ ระบุชื่อ น้องจิเหว่ย นาคทอง ชาตะ 17 ก.พ. 2549 มรณะ 18 ต.ค. 2552 คู่กับหีบศพผู้ใหญ่ โดยมีประชาชนมาร่วมในงานศพกว่า 100 คน มีนางพลับพลึง งามเจริญ อายุ 48 ปี ชาว ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา นั่งฟังพระสวดพระอภิธรรมอยู่กับครอบครัว หลังสวดพระอภิธรรมศพจบ ทางเจ้าภาพมีการแจกเงินและขนมให้กับเด็ก ๆ กว่า 100 คน

        นางพลับพลึง เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงพยาบาลราชธานี ได้มาจัดงานศพให้กับตุ๊กตาโดเรมอน โดยที่มาของเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด ท้อแท้ต่อชีวิต เพราะปัญหาเรื่องงานและปัญหาครอบครัวทับถมเข้ามา จึงหันไปพึ่งทางธรรม วัดไหนที่มีชื่อเสียงจะเดินทางไปหาทั้งหมด จนไปพบพระครูนิเวศธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม ต.พุแค อ.เฉลิม พระเกียรติ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 49 โดยพระครูนิเวศธรรมคุณ ให้ยาสมุนไพรลักษณะผงมาให้กิน และพูดให้กำลังใจ จากนั้นมอบตุ๊กตาโดเรมอนให้มาเลี้ยงเหมือนลูก บอกว่าจะให้คุณและทำให้จิตใจสบาย

        นางพลับพลึง กล่าวว่า จากนั้นตนจึงนำมาเลี้ยงเอาไว้ และมีความรู้สึกเหมือนมีชีวิต มีน้ำหนักโตขึ้นทุกวัน เวลาอุ้มหรือเวลานอนจะเหมือนเขาเป็นเด็กอ่อนคนหนึ่ง เราก็เลี้ยงและดูแลเหมือนเด็ก เวลานอนอยู่เหมือนเขามาคอยดูแลและมานอนด้วย เวลาจะทำอะไรไม่ดีก็รู้สึกเหมือนมีคนเตือน และทำให้มีโชคลาภ ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลบ่อย ๆ จนทำให้ฐานะดีขึ้น คนในครอบครัวคนใกล้ชิดที่ทำมาค้าขายการงานชีวิตทุกคนก็ดีขึ้น พอถึงวันเกิดของจิเหว่ยจะจัดงานวันเกิดให้ มีการแสดงดนตรีมีเลี้ยงโต๊ะจีนกว่า 50 โต๊ะ จากสภาพบ้านเก่า ๆ พอเป็นที่หลบฝนอาศัยซุกหัวนอนตนสามารถสร้างบ้านในราคากว่า 1 ล้านบาทได้ ทรัพย์สินเงินทองมีไม่ขาดมือ

        นางพลับพลึง กล่าวต่ออีกว่า เวลาไปไหนมาไหนก็จะพาน้องจิเหว่ยไปด้วย โดยเลี้ยงดูเหมือนลูก แม้ว่าจะมีลูกชายและลูกสาว 2 คน ทุกคนก็เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องก็รักตุ๊กตาตัวนี้เหมือนลูกหลาน โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเพิ่งพา ไปฝากเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่ ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทุกวันจะจ้างให้จักรยานยนต์รับจ้างพาไปส่ง และรับกลับมาหลังเลิกเรียน ในห้องเรียนที่น้องจิเหว่ยเรียนจะมีโต๊ะเรียนมีที่นอนมีตู้ล็อกเกอร์เหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไป เพื่อน ๆ ของน้องจิเหว่ยก็รัก ไม่มีใครกลัวน้องจิเหว่ย เวลาพักจะพาน้องจิเหว่ยไปเล่นด้วย ไปซื้อขนมเหมือนเด็กทั่วไปเช่นกัน

        จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค. 52 เวลาประมาณ 01.20 น. ฝันว่าน้องจิเหว่ยมาโบกมือลาบอกว่าขอลาไปก่อนขอให้แม่ช่วยทำบุญจัดงานศพเหมือนคนทั่วไปให้ด้วย จึงนำร่างจิเหว่ยไปให้กับพระครูนิเวศธรรมคุณ สวดพระอภิธรรมศพที่วัดสามัคคีธรรม จนกระทั่งนำกลับมาวันที่ 3 ม.ค. 53 เนื่องจากคิดถึง และพอได้เวลาจึงจัดงานศพให้ดังกล่าว โดยจัดให้มีการสวดพระอภิธรรมทุกคืน ใช้เงินเกือบ 2 แสนบาท และจะทำการฌาปนกิจ ในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 16.00 น.

        ด้านพระครูนิเวศธรรมคุณ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะพบกับนางพลับพลึง อาตมาไปร่วมงานฝังลูกนิมิตที่วัดแห่งหนึ่งมีการชุมนุมเทวดา นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม มาปลุกเสก โดยนำเอาตุ๊กตาโดเรมอนเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกด้วย จากนั้นนำมาเก็บไว้ในกุฏิไม่ได้เป็นพิธีกรรมของขลังอะไร จนกระทั่งนางพลับพลึงเดือดร้อนมาหา อาตมาจึงให้ตุ๊กตาไปเพื่อคอยดูแลคุ้มครองชีวิตเพราะนางพลับพลึงป่วยมาก แพทย์แจ้งว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน แต่นับจากวันที่รับตุ๊กตาไปสุขภาพร่างกายของนางพลับพลึงก็ดีขึ้น

Cr.Kapook

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

น้ำตาท่วมโรง! ผู้ชม 88% ยอมรับร้องไห้ขณะดู Stand By Me Doraemon

   ภาพยนตร์การ์ตูน Stand By Me Doraemon ยังทำเงินอย่างร้อนแรงต่อไปในประเทศญี่ปุ่น โดยล่าสุดหนังกวาดเพิ่มอีก 702 ล้านเยน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีข้อมูลทางสถิติว่าหนังแทบจะครองใจคนดูทุกกลุ่ม และผู้ชมเกือบถึง 90% ยอมรับว่าเสียน้ำตาระหว่างดูการ์ตูนเรื่องนี้
      
       อนิเมชัน 3D Stand By Me Doraemon ของ ยามาซากิ ทาเคชิ และ ยางิ ริวอิจิ ที่เล่าเรื่องมิตรภาพของ โนบิตะ กับ โดราเอมอน ผ่านช่วงเวลาสำคัญต่างๆ มากมาย ยังทำเงินอย่างต่อเนื่องในการฉายที่ประเทศญี่ปุ่น โดยหนังกวาดเงินเพิ่มจากวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาไปได้อีก 702 ล้านเยน (217 ล้านบาท) ครองแชมป์หนังทำเงินประจำสัปดาห์เป็นอาทิตย์ที่ 2 ติดต่อกัน และรายได้รวมก็สูงถึง 3,280 ล้านเยนแล้ว (1,017 ล้านบาท) จากทุนสร้างประมาณ 1,000 ล้านเยน (310 ล้านบาท)
      
       โดยสื่อญี่ปุ่นยังได้เผยผลสำรวจสถิติต่างๆ เกี่ยวกับกลุ่มผู้ชมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่แสดงให้เห็นว่า โดราเอมอน เป็นขวัญใจของคนทุกกลุ่ม เพราะจากตัวเลขผู้ชมทั้งหมดล้วนประกอบไปด้วยคนหลากหลายวัย โดย 20% เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี, ช่วงอายุระหว่าง 20 ปี คิดเป็น 22%, 30s มีอยู่ 20% เช่นเดียวกับที่อายุ 40 ปีขึ้นไปก็มีสัดส่วน 20% ส่วนสถิติผู้ชมเมื่อแบ่งเป็นเพศแล้ว ปรากฏว่าผู้หญิงมาดูหนังมากกว่าผู้ชายนิดหน่อยที่สัดส่วน 53% กับ 47%
      
       นอกจากนั้น ข้อมูลทางสถิติยังเปิดเผยอีกว่ามีผู้ชมถึง 88% ที่ยอมรับว่าเสียน้ำตาระหว่างการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
      
       ถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำโดราเอมอนมาสร้างเป็นอนิเมชันด้วยเทคนิคภาพ 3D โดย Stand By Me Doraemon นำเรื่องราวจากตอนสั้นๆ ผลงานดั้งเดิมของ ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ และ โมโตโอะ อาบิโกะ มาผูกเป็นเรื่องราว ทั้ง “ตอน ผู้มาจากโลกแห่งอนาคต” ซึ่งถือว่าเป็นตอนแรกของ โดราเอมอน, “ตอน ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ” รวมถึง “ตอน คืนก่อนแต่งงานของโนบิตะ” และ “ตอน ลาก่อนโดราเอมอน” ซึ่งเดิมทีผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นตอนจบของการ์ตูนชุดนี้ แต่สุดท้ายเพราะเสียงเรียกร้องของแฟนๆ และสำนักพิมพ์จึงกลับมาเขียนต่ออีกครั้งนั่นเอง
น้ำตาท่วมโรง! ผู้ชม 88% ยอมรับร้องไห้ขณะดู Stand By Me Doraemon

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

คติจากพี่ DORAEMON

โดเรมอน สอนให้เรารู้ว่า แม้จะเสกของวิเศษได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้ในชีวิต
เพราะฉะนั้นน้องๆๆเพือ่นๆๆพี่ๆๆทุกคนก็อย่าคิดว่าถ้าเรามีพี่ DORAEMON อยู่ด้วยแล้วจะได้ทุกอย่างที่เราต้องการนะค่ะ เราควรจะใช้ความพยายามของตนเอง เราลองใช้ข้อคิดของพี่DORAEMON เป็นแรงพลักดันดูนะค่ะ ^^

#ข้อคิดโดเรมอน

**ข้อคิดจากพี่ DORAEMON**

            ***ข้อคิดดีๆจากเรื่องราวของพี่DORAEMON***


เมื่อเอ่ยถึงตัวการ์ตูืนโดเรม่อน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ รุ่นเก๋าแค่ไหน

เมื่อเอ่ยถึงโดเรม่อน ทุกคนก็จะนึกถึงภาพแมวหุ่นยนต์ตัวสีฟ้า มีกระเป๋า 3 มิติอยู่หน้าท้อง ซึ่งภายในกระเป๋าก็เต็มไปด้วยของประดิษฐ์ไฮเทคจากโลกอนาคต ส่วนที่มาที่ไปของโดเรมอนนั้นคงจะไม่กล่าวถึง เพราะต่างคงรู้กันดีว่าโดเรมอนมาจากไหน มาทำอะไรในโลกปัจจุบันของโนบิตะ แต่ที่จะกล่าวถึงก็คือ ตอนหนึ่งของโดเรมอน เป็นตอนที่โนบิตะทำสร้อยของคุณแม่หาย กลัวว่าจะโดนทำโทษ ไปขอให้โดเรมอนช่วย จึงได้ของวิเศษจากโดเรมอนมา ซึ่งเป็นเครื่องที่สามารถเรียกของคืนมาได้จากความทรงจำ ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะหายไปนานแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดโนบิตะก็ได้สร้อยมาคืนให้แก่แม่
และนอกจากนั้นโนบิตะก็ยังได้นึกถึงของเล่นสมัยเด็กๆ ที่หายไปหรือพังไปแล้ว จนได้ของเล่นสมัยเด็กๆ กลับมาอีกหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ ตุ๊กตาดารุมะ ซึ่่งเป็นตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่น ทำให้เขานึกถึงคำสอนของคุณย่าที่บอกแก่โนบิตะ
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่โนบิตะตอนเป็นเด็กวิ่งหกล้มในสวนของบ้านกำลังร้องไห้เสียงดัง จู่ๆ ก็มีตุ๊กตาดารุมะมาตกอยู่บนพื้นตรงหน้าของโนบิตะ ซึ่งคุณย่าเป็นคนโยนไปตรงหน้าเพื่อให้โนบิตะหยุดร้องไห้ แล้วหลังจากนั้นก็สอนว่า เป็นคนต้องเข้มแข็งจงทำตัวให้เป็นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก จงดูสิมันล้มกี่ครั้งมันก็ลุกขึ้น มันไม่เคยร้องไห้ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งมันก็ยังคงลุกขึ้นเสมอ ทำให้โนบิตะเกิดความรู้สึกว่าเขาจะต้องเข้มแข็งไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ซึ่งหลังจากที่ได้ดูตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าเป็นคติเตือนใจที่ดี เลยก็หยิบยกเอามาบอกเล่าให้ฟังจ้า
                         ********ขอขอบคุณข้อมูลดีๆๆจากพี่่ Panuwat********

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

....มาทำความรู้จักกับพี่ DORAEMON กันเถอะ....


                                                  ****...สวัสดีคร้าาาาาาาา...****
                           วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพี่ DORAEMON กันให้ดีขึ้นนะค่ะ  เริ่มจาก........
         ความเป็นมา

   โดราเอมอน (ญี่ปุ่น: ドラえもん Dora'emon โดะระเอะมง ?) หรือ โดเรมอน เป็น การ์ตูนญี่ปุ่น แต่งโดย
 ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ เรื่องราวของหุ่นยนต์แมวหูด้วน ชื่อ โดราเอมอน โดยฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้กล่าวว่าโดราเอมอนเกิดวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) มาจากอนาคตเพื่อกลับมาช่วยเหลือโนบิตะ เด็กประถมจอมขี้เกียจด้วยของวิเศษจากอนาคต โดราเอมอนเริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2513 โดยสำนักพิมพ์โชงะกุกัง[3][4] โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 1,344 ตอน  ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2540 โดราเอมอนได้รับรางวัลเทะซุกะ โอซามุ ครั้งที่ 1 ในสาขาการ์ตูนดีเด่น  อีกทั้งยังได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของทวีปเอเชีย จากประเทศญี่ปุ่น  จากนั้นในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดราเอมอนก็ได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น  นอกจากนี้บริษัทบันได ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าการ์ตูนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ยังได้ผลิตหุ่นยนต์โดราเอมอนของจริงขึ้นมาในชื่อว่า "My โดราเอมอน" โดยออกวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

ในประเทศไทย โดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูนมีการตีพิมพ์โดยหลายสำนักพิมพ์ในช่วงก่อนที่จะมีลิขสิทธิ์การ์ตูน แต่ปัจจุบัน สำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์แต่เพียงผู้เดียว ส่วนฉบับอะนิเมะ ออกอากาศทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. หรือโมเดิร์นไนน์ทีวี ในปัจจุบัน และวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี-ดีวีดี ลิขสิทธิ์โดยบริษัทโรส วิดีโอ                                                                                   ****ทุกคนก็ได้รู้ประวัติคร่าวๆของพี่ Doraemon กันไปแล้ว ต่อไปเราไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆของพี่เขากันเถอะคร้าาาาา..****

โดราเอมอน

หุ่นยนต์แมวจากอนาคตกลับมาช่วยเหลือโนบิตะ โดยเซวาชิผู้เป็นเหลนของโนบิตะเป็นผู้ส่งมา โดเรมอนกลัวหนูมาก เพราะเคยโดนหนูแทะหู จนต้องตัดหูทิ้ง ชอบกินโดรายากิ เนื่องจากตอนที่อยู่โลกอนาคตยังไม่มาหาโนบิตะโดราเอมอนได้รับโดรายากิกับแมวผู้หญิงตัวหนึ่งซึ่งน่ารักมาก โดราเอมอนจึงชอบเป็นพิเศษ จะมีอารมณ์โกรธทันทีเมื่อมีใครเรียกเขาว่า "แรคคูน" หรือ "ทานุกิ" (พากย์เสียงภาษาไทยโดย ฉันทนา ธาราจันทร์[14])




โนบิตะ (โนบิ โนบิตะ)


เด็กชายที่ไม่เอาไหน ทั้งเรื่องการเรียน กีฬา นิสัยขี้เกียจ และชอบนอนกลางวัน สอบก็ได้ 0 คะแนนทุกครั้ง แต่ก็มีความสามารถด้านยิงปืนและพันด้าย และเป็นคนมีน้ำใจ ชอบชิซุกะมานาน และมักถูกไจแอนท์กับซึเนะโอะแกล้งประจำ แต่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเมื่อโดราเอมอนไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว จะมีอารมณ์ไม่พอใจเมื่อเดคิสุงิอยู่ใกล้กับซิซุกะ เพราะคิดว่าซิซุกะแอบชอบเดคิสุงิ แต่ถึงอย่างไรตอนอนาคตก็ได้แต่งงานกับโนบิตะอยู่ดี



ชิซุกะ (มินาโมโตะ ชิซุกะ)

เด็กสาวน้ำใจดี เป็นที่รักของทุกคน ชอบการอาบน้ำเป็นอย่างมากและชอบเล่นเปียโน เป็นเด็กสาวที่โนบิตะแอบชอบ และชอบกินสปาเก็ตตี้และมันเผาเป็นพิเศษ อนาคตเธอก็ได้แต่งงานกับโนบิตะ (พากย์เสียงภาษาไทยโดย ศรีอาภา เรือนนาค[15])






ซึเนโอะ (โฮเนคาวะ ซึเนะโอะ)

เด็กขี้อวดประจำโรงเรียน ฐานะดี และเป็นเพื่อนซี้กับไจแอนท์ ผู้มีฐานะทางบ้านดีที่สุดในกลุ่ม มีนิสัยชอบคุยโม้ ชอบพูดยกยอ และขี้ประจบ ชอบเอาของมาอวดให้พวกๆอิจฉาแต่ก็พร้อมที่จะเจออันตรายกับพวกเพื่อนๆได้ในตอนที่เป็นภาพยนตร์ มักจะวางแผนกับไจแอนท์เพื่อแกล้งโนบิตะ (พากย์เสียงภาษาไทยโดย อรุณี นันทิวาส[16])





ไจแอนท์ (โกดะ ทาเคชิ)


เด็กอ้วน หัวโจกประจำกลุ่ม ชอบแกล้งโนบิตะเป็นประจำ แต่ก็มีหลายครั้งที่แสดงความผูกพันกับโนบิตะ (อยากขอร้องให้ช่วย) ฝันอยากจะเป็นนักร้องแต่เสียงไม่เอาไหน แต่บางครั้งเสียงไม่เอาไหนของเขาก็ช่วยทำให้สถานการณ์ที่คับขันให้คลี่คลายได้ เพราะคงไม่มีใครคนไหนที่สามารถทนเสียงของเขาได้ และเป็นคนที่รักเพื่อนพ้องมาก (พากย์เสียงภาษาไทยโดย นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์[17])



โดเรมี


หุ่นยนต์แมวจากอนาคต เป็นน้องสาวของโดราเอมอนสวยน่ารัก แต่ประสิทธิภาพสูงกว่าโดราเอมอนทุกด้านเช่น ความรู้ วิธีใช้ของวิเศษ อาศัยอยู่ที่โลกศตวรรษที่ 22 ไม่ค่อยปรากฏตัวให้พบเห็น จะปรากฏตัวเมื่อโดราเอมอนเรียกขอความช่วยเหลือ หรือ สถานการณ์ที่โดราเอมอนไม่สามารถควบคุมได้ บางครั้งก็มาช่วยเหลือโนบิตะตอนที่โดราเอมอนไม่อยู่ (พากย์เสียงภาษาไทยโดย อรุณี นันทิวาส)



ที่มา : จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

                               
                         
*****โปรดติดตามความสนุกของพวกเราต่อไปนะคร้าาาาาา*****